เราจะเริ่มเรื่องราวจากเพื่อนบ้านของเราที่อยู่ติดกัน ซึ่งก็คือสถานทูโปรตุเกส ปัจจุบันแนวกำแพงด้านหน้าสถานทูตทีมี่ผลงานศิลปะขนาดใหญ่ของวีลส์ (Vhils) ชื่อแท็กของศิลปินกราฟฟิตีชื่อดังชาวโปรตุเกส Alexandre Manuel Dias Farto ใครจะรู้บ้างว่าที่ดินเบื้องหลังแนวกำแพงติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งนี้เคยเป็นที่พักของ “องเชียงสือ” กษัตริย์เวียดนาม ผู้ลี้ภัยทางการเมืองเข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารรัชกาลที่1 แล้วหนีกลับญวนในเวลาต่อมา

.

หลังสงครามคราวเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่2 ชาวตะวันตกชาติแรกที่เริ่มเข้ามาเจริญพระราชไมตรีและเริ่มเข้ามาติดต่อ ค้าขายในยุคกรุงรัตนโกสินทร์อีกครั้งคือโปรตุเกส ต่อมารัชกาลที่2 มีพระราชประสงค์ให้นายพานิชโปรตุเกส มีที่ตั้งห้างค้าขายอย่างเป็นกิจจะลักษณะ จะได้ผูกพันทางพระราชไมตรีกับพระเจ้ากรุงโปรตุเกสต่อไปด้วย จึงพระราชทานที่ดินริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่เป็นบ้านที่องเชียงสือเคยอยู่มาแต่ก่อน ให้เป็นที่สร้างอู่ต่อเรือและที่ตั้งห้างซึ่งกลายเป็นสถานกงสุลและสถานทูตโปรตุเกสโดยลำดับจนถึงปัจจุบัน ถือเป็นถิ่นพำนักทางการทูตที่เก่าแก่ที่สุดในกรุงเทพมหานคร

.

ตอนนั้นนายคาร์ลอส เดอ มานูแอล ซิลเวียรา ได้รับแต่งตั้งให้เป็นกงสุลโปรตุเกสประจำไทย ซึ่งคงจะปฏิบัติตนเป็นที่ถูกอัธยาศัยคนไทยตลอดจนเจ้านายเป็นอย่างดี จึงปรากฏว่ารัชกาลที่2 พระราชทานตำแหน่งให้เป็น หลวงอภัยพานิช พระราชทานเครื่องยศให้เหมือนขุนนางไทย นอกจากนี้เขายังป็นคนใจคอกว้างขวางอยู่ในหมู่พวกฝรั่ง แม้ตัวเองนับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก แต่เมื่อพวกโปรเตสแตนต์แรกเริ่มเข้ามาไทย ก็ได้อาศัยที่ทางนายคาร์ลอส เดอ มานูแอล ซิลเวียราแบ่งให้เช่าอยู่