ในช่วงเวลานั้น ชุมชนบางรักเริ่มตระหนักถึงคุณค่าของอาคารเก่าในย่านของตนเอง และให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์มรดกทางสถาปัตยกรรม หนึ่งในผู้บุกเบิกแนวคิดการรักษาและปรับใช้พื้นที่อาคารเก่าให้เกิดประโยชน์ใหม่ คือสถาปนิกชื่อดัง “ดวงฤทธิ์ บุนนาค” ผู้ซึ่งเคยสร้างผลงานอันโดดเด่นที่ The Jam Factory ริมฝั่งตรงข้ามของแม่น้ำ และด้วยวิสัยทัศน์ของเขาเองที่เห็นศักยภาพของโกดังเก่าเหล่านี้ — โปรเจกต์ Warehouse 30 จึงถือกำเนิดขึ้น!

ภาพด้านบน (ค.ศ. 2025): มุมมองของโครงการ Warehouse 30 จากซอยเจริญกรุง 30

ภายในของ Warehouse 30 หลังการบูรณะเต็มไปด้วยร้านค้า คาเฟ่ ร้านอาหาร และแกลเลอรี — แตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากภาพในอดีตที่เคยเป็นพื้นที่เก็บเครื่องจักรและชิ้นส่วนหัวรถจักร ดวงฤทธิ์ บุนนาค ได้บูรณะส่วนภายนอกของอาคารอย่างพิถีพิถัน เพื่อคงเสน่ห์ดั้งเดิมเอาไว้ไม่ให้สูญหาย ขณะเดียวกัน เขายังคงรักษาโครงสร้างภายในส่วนใหญ่ให้คงสภาพเดิม ยกเว้นบางพื้นที่ที่จำเป็นต้องปรับให้เหมาะสมกับการใช้งานของผู้เช่า

สิ่งเดียวที่ไม่อาจต่อรองได้คือ “พื้นไม้เดิม” ซึ่งต้องคงไว้ เพื่อรักษาบรรยากาศดิบเท่แบบโกดังเก่าให้ยังคงอยู่ ก่อนที่ Warehouse 30 จะเปิดตัวในปี 2016 โกดังเหล่านี้ก็ได้ปรับตัวให้เข้ากับกาลเวลาอย่างดีเยี่ยมแล้ว แสดงให้เห็นว่าพื้นที่แห่งนี้ไม่เคยถูกทอดทิ้งให้รกร้างเลยตลอดมา


ภาพด้านบน (ค.ศ. 2025): มุมมองของโครงการ Warehouse 30 จากซอยเจริญกรุง 32 หลังการขยายพื้นที่ลานจอดรถ


ภาพบน (ค.ศ. 2016): โกดังเดิมมีพื้นที่จอดรถค่อนข้างจำกัด
ภาพล่าง (ค.ศ. 2025): พื้นที่จอดรถที่ขยายใหม่กว้างขวางและสะดวกสบาย


ภาพบน (ค.ศ. 2016): โกดังแต่ละหลังยังแยกออกจากกัน ไม่มีทางเชื่อมต่อ
ภาพล่าง (ค.ศ. 2025): มีการสร้างทางเดินเชื่อมมีหลังคาสำหรับคนเดิน และติดตั้งระบบป้ายบอกทางใหม่เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้มาเยือน


ภาพด้านบน: ทางเดินนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเชื่อมต่อโกดังทั้ง 8 หลังเข้าด้วยกัน